ชลดา พรมสาลี

“ผมว่าเอาความจริงมาขายดีกว่า แม้แต่บางรายการก็ไปแอบบอกคำตอบเขาก่อน ให้เขาตอบแล้วดูเก่งในโทรทัศน์ ไม่มีอะไรจริงสักอย่าง ดูสื่อพวกนี้ ดูโทรทัศน์ไทย ผมเปิด porn hub ดูยังดีกว่า ยังมีความจริงมากกว่ารายการโทรทัศน์โง่ๆ พวกนี้อีก”

หนังตลกเบาสมองที่ได้สาวสวยอย่าง แอน แฮทธาเวย์ มาฟาดฟันกับนักแสดงสาวร่างอ้วน เรเบิล วิลสัน ที่ต้องรับบทเป็นสาวนักตุ๋น ที่มักต้มเหยื่อจากการนัดเดทออนไลน์ เธอต้องพบกับนักต้มตุ๋นสาวสวยระดับเหนือเซียน ที่กลายมาเป็นทั้งครูและศัตรูตัวฉกาจของเธอ

เราควรอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย เราควรเลิกดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ กลับมาดูหนังไทยอย่างกิ้งก่ากายสิทธิ์ หรือหนุมานปะทะ 11 ยอดมนุษย์ กลับมาดูหนังของไชโยภาพยนตร์กันดีกว่า…

นักเลงเชื้อสายอิตาเลียนทำงานเป็นการ์ดในผับให้กับพวกมาเฟีย หลังจากร้านถูกสั่งปิดด้วยเหตุทะเลาะวิวาท เขาได้งานเป็นคนขับรถให้กับนักเปียโนผิวดำผู้มีพรสวรรค์ ที่กำลังจะเดินทางไกลเพื่อเล่นดนตรีทั่วภาคใต้ของประเทศ แต่ติดตรงที่ว่าในยุคนั้น ผู้คนทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกายังคงกีดกันและเลือกปฏิบัติต่อคนผิวดำ เพียงเพราะเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาอย่างช้านาน

โดยรวมๆ Glass แสดงทัศนคติอย่างตรงไปตรงมาของ เอ็ม ไนท์ ชยามาลัน (ผู้กำกับ) เกี่ยวกับภาวะคลั่งหนังซูเปอร์ฮีโร่ของฮอลลีวู้ด (ที่มักกำหนดความนิยมในตลาดภาพยนตร์ทั่วโลก และสร้างพฤติกรรมของคนดูหนังไปพร้อมกัน) รวมไปถึงบรรดาแฟนคลับที่ชื่นชมตัวละครการ์ตูนดีซี มาร์เวลต่างๆ ที่มีส่วนมากในการอุ้มชูให้หนังซูเปอร์ฮีโร่เฟื่องฟูถึงขั้นนี้ หนังอาจจะมีประเด็นดราม่าละเอียดอ่อนว่าด้วยความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ แต่สรุปรวมความทั้งหมดได้ว่า “ทุกคนกำลังป่วยทางจิต” ไม่เว้นแม้แต่แฟนคลับหนังซูเปอร์ฮีโร่ และนี่คือภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับหนังเดอะ ซิกส์ เซนส์