นักเขียนรับเชิญเรื่องสั้น

เลือกตั้งครั้งแรก | กรินทร์ สัตนาคี

เมฆเคลื่อนตัวบดบังดวงอาทิตย์แผดแสง คนนับร้อยยืนล้อมคูหาเลือกตั้ง บ้างยกมือขึ้นปาดเหงื่อ บ้างถอนหายใจไล่อากาศร้อนร้ายยามบ่ายวันนี้ ความวิตกกังวลของจ่ายอดยังไม่คลายลง สายตาคู่นั้นยังจับจ้องไปที่คูหาเลือกตั้ง ไม่เข้าใจสักนิดว่าเหตุประหลาดตรงหน้าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่คิดว่าเป็นหน้าที่ของตน หน้าที่ของผู้พิทักษ์ สันติราษฏร์ เช่นเดียวกับหน้าที่ของพลเมืองไทยที่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านมาเลือกตั้งในช่วงสายของวัน…

หลังตื่นรับอากาศเย็นสบายยามเช้า ดูท่าเมียจะออกไปตลาดเพื่อเตรียมข้าวของมาทำขายที่เพิงหลังโรงพัก เพื่อนตำรวจข้างบ้านคุยกันขรม จ่ายอดเงี่ยหูได้ความเมื่อยังอาบน้ำนั่งส้วม เห็นจะมีงูเหลือมแอบเลื้อยเข้าไปกินไก่ของชาวบ้าน เขาว่างูเหลือมตัวยาวใหญ่หลายเมตร กินไก่อิ่มเลื้อยหนีไม่พ้น โดนเจ้าของไก่ฟันหัวขาดแร่งเสียงเพื่อนตำรวจเล่าเมื่อผ่านไปประสบเหตุ ชาวบ้านเตรียมถลกหนังงูเคราะห์ร้ายลงหม้อต้มใหญ่ น่าเสียดายที่ไม่ได้อยู่ร่วมวงชาวบ้าน

จ่ายอดคิดว่าในยามเลือกตั้งแบบนี้ บ้านไหนมีงูสักตัว เหล้ายาปลาปิ้งคงเพรียบพร้อมไม่ขาดตกบกพร่อง

แดดร่มได้ไม่นาน ก้อนเมฆก็เคลื่อนตัวผ่านอีก แดดร้อนร้ายกลับมาแผดจ้าอีกครั้ง คราวนี้เล่นเอาคณะกรรมการประจำคูหาเลือกตั้งถึงกับบ่นอุบ ช่วยกันแบกคูลเลอร์น้ำไปวางใต้ร่มหูกวาง หยิบแผ่นพับความรู้เรื่องประชาธิปไตยโบกไล่เหงื่อชุ่ม ชาวบ้านสนใจจับจ้องเหตุการณ์ในคูหาเลือกตั้งราวกับมันเป็นเรื่องของตน หากจะว่าไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องของพวกเขาไม่เกินสักครึ่ง แม้จะไม่เป็นเรื่องของคนทั้งร้อยโดยตรง แต่จนป่านนี้ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมง พวกเขายังยืนคอยนั่งคอยจะเข้าไปใช้สิทธิกากบาทเลือกตั้ง และต่อให้เกิดเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ประชาธิปไตยยังเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขาต้องทิ้งไร่ทิ้งสวน ทิ้งงานหนักบนเถียงนา ทิ้งจอบเสียม ทิ้งงานการอื่นๆ เพื่อออกจากบ้านมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ด้วยแดดจ้ากลับมาร้อนแรงตามเดิมอีกครั้ง คราวนี้จ่ายอดยักคิ้วหรี่ตาสู้แดดยามสาย มองไปยังคูหาเลือกตั้ง นานนับสองชั่วโมง ยังไม่มีใครเข้าใจถึงเกิดเหตุประหลาดที่เกิดขึ้น ความหิวสำแดงตนขึ้นบริเวณช่องท้อง ตั้งแต่เช้าแม้ข้าวสักเม็ดยังไม่ตกถึง ผู้คนมารวมตัวกันนับร้อยเช่นนี้ ไฉนไม่ยวนใจคนขายลูกชิ้นปิ้งหรือข้าวเหนียวไก่ย่างให้มาเร่รถขาย พวกเขาควรมองคูหาเลือกตั้งเป็นทำเลค้าขายชั้นเลิศ เป็นแหล่งทำเงิน และเป็นแหล่งทำมาหากินที่จะสร้างรายได้แก่ทุกคนที่มองเห็นคุณค่าของมัน จ่ายอดนึกโมโหเมียที่แม้แต่ไข่ดาวสักใบยังไม่ทอดทิ้งไว้ก่อนออกไปตลาด แต่ไม่ว่าหิวมากหิวน้อย หน้าที่นอกเวลาราชการของแกยามบ่ายวันนี้ยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อผู้คนนับร้อยที่คอยท่าเหตุการณ์อันไม่รู้จะลงเอยเช่นไร

เหตุการณ์อันน่าพิศวงยังคงดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางความหงุดหงิดของเหล่าชาวบ้านที่ต้องการทำหน้าที่อันสลักสำคัญในฐานะพลเมืองไทย ปรากฏร่างผอมโซของชายหนุ่มเส้นผมยาวสลวย สวมเสื้อยืดเก่ากางเกงยีนส์ขาดเก่าพอกัน สองเท้าคีบอีแตะตราดาวเทียม แต่ที่แปลกประหลาดคือสิ่งที่เขาแบกมาด้วย มันมีลักษณะดูคล้ายจะเป็นกีต้าร์ไฟฟ้า แต่หากจะเรียกว่ากีตาร์ไฟฟ้าก็จะเกินเลยไป เพราะกีต้าร์ของเขาเป็นเพียงเศษไม้แกะทรงให้ดูคล้ายเครื่องดนตรีประเภทนั้น จะว่าไปแม้สายกีต้าร์กับตัวลูกบิดยึดสายก็ยังไม่มีอีกซ้ำ เมื่อเดินมาถึงฝูงชนที่ต่างคอยบางสิ่งบางอย่าง เขานั่งลงกลางแดดจัดพลางทำท่าดีดกีต้าร์ไร้สายราวกับเสียงวิเศษจะล่องลอยออกมาจากท่อนไม้สัปรังเคนั้น แถมบางครั้งยังทำท่าจับคอร์ด กรีดนิ้วดีดไปตามเส้นสายที่เป็นเพียงอากาศธาตุ ทำท่าเงี่ยหูฟังท่วงทำนองที่ไม่ได้แว่วออกมาแม้สักตัวโน๊ตเดียว ราวกับไม่ได้ดั่งใจ ศิลปินกีต้าร์มือฉมังเลื่อนมือไปบนตำแหน่งคอร์ดที่ต่างออกไป ทำท่าดีดอีกหลายหน คราวนี้จึงแย้มรอยยิ้มอันหาสติไม่ได้ รีบควักกระดาษยับย่นออกมาวางบนพื้น ใช้ดินสอสั้นกุดจดอะไรขยุกขยิกลงบนกระดาษดำด่าง

จ่ายอดสิ้นความสงสัย แกคุ้นเคยกับเจ้าศักดาเป็นอย่างดี ด้วยชายหนุ่มผู้นี้ชอบเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวโรงพักเป็นประจำ ศักดาเป็นชายวิกลจริตที่เดินเที่ยวเล่นไปทั่วอำเภอ เขาเป็นคนบ้าที่ไม่เป็นภัยแก่ใครทั้งสิ้น เมื่อรู้สึกหิวเขาจะแบมือขอแต่โดยดี นอกจากนี้ศักดายังไม่เคยคดโกงใคร เขาไม่เคยรับเงินไปร่วมเดินขบวนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ที่สำคัญเขาไม่เคยขายสิทธิขายเสียงมาก่อน แม้แต่กีต้าร์ของเขาก็หาได้มีเสียงดังผ่านเครื่องขยายให้ใครต้องทนรำคาญ เมื่อปวดหนักปวดเบาเขาเดินกลับบ้านไปนั่งห้องน้ำห้องท่า ไม่ทำสกปรกเลอะเทอะไปทั่ว

เขาเป็นคนบ้าผู้น่ารัก และเป็นคนดังประจำอำเภอ

ชาวบ้านกล่าวขานกันหลายปากถึงอดีตของศักดา เขาอาจเป็นได้ตั้งแต่มือกีต้าร์ร็อคจอมอัจฉริยะที่ฝีมือเข้าขั้นกู่ไม่กลับในวิชาดนตรี กระทั่งอาจเป็นสายลับตำรวจปลอมตนมาสืบราชการลับส่งการข่าวให้หน่วยเหนือ บางคนสำทับว่าศักดาสามารถหุงข้าวจากหม้อไฟฟ้าได้ เขากดรีโมตโทรทัศน์ดูข่าวการเมืองได้ หนำซ้ำยังหมุนหาคลื่นวิทยุสถานีหาเพลงสากลฟังได้ หากทั้งหมดนี้เป็นเรื่องคนพูดกันไปโดยหาเค้าความจริงได้ยาก

ส่วนจ่ายอดคิดไปว่าถ้าศักดามีความสามารถถึงขนาดนั้น มันคงไม่ทนนั่งดีดกีต้าร์ไม่มีสายแบบนี้

เอาเข้าจริงจ่ายอดยังไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นในคูหาเลือกตั้ง ราวกับมีสิ่งแปลกประหลาดเข้าสิงสู่จนผู้คนไม่กล้าก้าวเท้าเข้าไปกากบาทบัตรเลือกตั้ง สิ่งแปลกประหลาดที่ว่านี้ บางทีดูสุกสว่างเรืองรองทอประกายเจิดจำรัสอย่างกับโครงโลหะขึงผ้าใบนี้เป็นคูหาวิเศษที่จะแก้ปัญหาทุกสิ่งอย่าง แต่บางทีกลับหม่นมืดชนิดที่ต้องรวมความมืดทุกประเภทเข้าไว้ด้วยกัน บางครั้งคลับคล้ายคลับคลาจะเรียกได้ว่ามีความหวัง แต่แล้วก็เป็นความหวังที่แตกสลาย สิ่งจริงแท้อย่างเดียวที่จ่ายอดสังเกตเห็นคือรอยโหว่ของผ้าใบตรงเหนือคูหาเลือกตั้ง รอยโหว่กว้างเกือบฝ่ามือปล่อยลำแสงทาบทาลงบนบัตรเลือกตั้งใบแรก ที่เหมือนกวักมือให้จ่ายอดเดินเข้าไปกากบาท

ด้วยเหตุไม่มีใครรู้ว่าเหตุประหลาดเกิดขึ้นได้อย่างไร ความมหัศจรรย์อันหาเหตุผลไม่ได้ทำให้คนจับกลุ่มพูดคุยโดยความไม่รู้ บ้างผิดบ้างถูก บ้างว่ากันไปคนละปากสองปาก ข้างคณะกรรมการคอยแต่พัดวีตนให้พ้นจากอาการรุ่มร้อน ไม่นานเด็กเล็กอาสาวิ่งซื้อกล้วยส้มขนมหวานมาปรนเปรอให้ คณะกรรมการจึงนั่งรับประทานกันอย่างสุขสำราญใจ ศักดาตั้งท่าคิดค้นท่วงทำนองทิพยดนตรี เมื่อชาวบ้านคนหนึ่งขอดูกระดาษยับย่นและดำด่างแผ่นนั้น เขาถึงกับสนเท่ห์ใจ ด้วยบนแผ่นกระดาษปรากฎทั้งเครื่องหมายบวก ลบ คูณ หาร เลขยกกำลัง รวมทั้งเครื่องหมายสแควร์รูท เขาถึงกับครางฮือในลำคอ เพราะสิ่งที่ศักดาเขียนเห็นจะไม่ใช่โน๊ตเพลง

ผู้คนทั้งร้อยรวมทั้งจ่ายอดจับจ้องไปยังคูหาเลือกตั้งด้วยความไม่แน่ใจ หากตัดสินใจลงมือทำหน้าที่พลเมืองไทยของตนแล้วคราวนี้จะต้องพบเจออภินิหารการเมืองประเภทใดอีก เห็นจะมีเพียงศักดาคนเดียวที่ยังคิดค้นวิทยาศาสตร์ดนตรีด้วยกีต้าร์ไม้ไร้สายอย่างคนมากสมาธิ ระหว่างที่ใครต่อใครยังสงวนท่าทีอยู่นั้น ศักดาลุกขึ้นยืนจังก้าพร้อมกีตาร์ไม้ของเขา ยังไม่ทันจ่ายอดจะเอ่ยปากห้าม เสียงฮือฮาของชาวบ้านดังอึงขึ้นเมื่อชายวิกลจริตเดินดุ่มเข้าสู่คูหาเลือกตั้งราวกับเป็นคนไทยผู้รักชาติรักประชาธิปไตยอย่างสูงคนหนึ่ง จ่ายอดไม่รู้จะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า แม้หลายเสียงลงความเห็นว่าจ่ายอดควรทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่มีความคิดเห็นที่ควรแน่ใจได้ว่าต้องทำอย่างไร แกจึงเลือกจะเฉยเสีย

ศักดาเข้าถึงคูหาเลือกตั้งพร้อมดินสอกุดทู่ในมือดำกร้าน ใบหน้าคล้ำดำของชายวิกลจริตปรากฏยิ้มพรายเหมือนเด็กชายได้พบของสนุก หลายต่อหลายครั้งที่ศักดาเห็นพวกชาวบ้านมายืนห้อมล้อมโครงหลังคาผ้าใบกันแดด ทุกคนต่างรอคอยจะเข้าไปขีดอะไรขยุกขยิกสักหน่อยบนแผ่นกระดาษ ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ศักดาอยากเข้ามาดูอยู่หลายครั้ง แต่ครั้นจะเข้ามาครั้งใด มีแต่จะโดนผลักไสให้ถอยห่างหรือถูกด่าทออย่างสาดเสียเทเสีย
คราวนี้จึงถึงคราวของศักดาเสียที ด้วยดินสอไม้กุดทู่ในมือ ศักดาจะทำหน้าที่ของนักประชาธิปไตย !

ศักดาหยิบบัตรเลือกตั้งขึ้น แม้แปลกใจว่าที่แท้แล้วมันเป็นกระดาษอะไรกันแน่ ด้วยมีตัวเลขพิมพ์ปรากฏเป็นแถวเป็นแนว ตัวเลขง่ายๆ แบบนี้อย่าว่าแต่คนอื่น แม้แต่ศักดาก็สามารถเขียนขึ้นมาได้เหมือนกัน ว่าแล้วศักดาจึงบรรเลงดินสอลงบนบัตรเลือกตั้งจนเปรอะไปทั่ว โดยเขียนอะไรก็ตามแต่ใจชายวิกลจริตเท่านั้น จ่ายอดที่ยืนสังเกตการณ์ในระยะห่าง แกก็พอเดาออกว่าเจ้าศักดาคงอยากจะใช้สิทธิใช้เสียงในฐานะประชาชนชาวไทย แต่เรื่องจะเดาใจว่าศักดาเลือกกากบาทให้พรรคใดนั้น ก็จนใจจะทราบได้จริงๆ

ไม่แน่ ชายวิกลจริตอาจเลือกลงคะแนนให้พรรครัฐบาลชุดเดิมหรืออาจเลือกลงคะแนนให้ขั้วตรงข้ามทางการเมือง จ่ายอดคิดว่ารสนิยมทางการเมืองของศักดาคงไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป จะว่าไปการเมืองไทยในสายตาของจ่ายอดต้องถือเป็นเรื่องวุ่นอยู่พอสมควร ด้วยบางครั้งแกโดนคำสั่งจากเบื้องบนให้จำใจเดินทางเข้าทำราชการในกรุงเทพฯ เป็นกำลังเสริมต้านการประท้วงที่เกิดมีขึ้นในทุกยุคสมัย จ่ายอดถือว่าสิ่งนี้เป็นหน้าที่อันไม่พึงประสงค์ของข้าราชการอย่างแก เพราะนอกจากจะเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำเจ้าหน้าที่เพียงวันละกล่องสองกล่องแล้ว เบี้ยเลี้ยงที่จ่ายอดได้รับกลับไม่ค่อยเต็มเม็ดเต็มหน่วย ด้วยกว่าจะตกมาถึงมือก็ถูกหักถูกเบียดกันมาหลายทอดหลายต่อ

วันนี้ก็เช่นกัน จ่ายอดต้องมายืนเฝ้าคูหาเลือกตั้ง ไม่ต่างจากยืนเฝ้าม็อบแต่อย่างใด…

แต่ไม่ว่าอย่างไร ประชาธิปไตยยังคงเป็นสิ่งหนึ่งที่ประชาชนทั้งร้อยคนในยามนี้ รวมทั้งจ่ายอดต้องร่วมกันประคับประคอง โดยเฉพาะในยามที่อภินิหารอันแปลกประหลาดได้ปรากฎขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

ข้างฝ่ายศักดาเมื่อบรรเลงบัตรเลือกตั้งอย่างสนุกสนานในอารมณ์ร็อคแล้ว เขาจัดการพับบัตรเลือกตั้งตามประสาของเขาจนบัตรยับย่นเสียหมด หลังมองซ้ายขวาไม่เห็นมีใครยืนอยู่ ศักดาจึงหย่อนบัตรลงสู่หีบเลือกตั้งโดยมือของเขาเอง โดยก่อนจะหย่อนบัตร เขาทำท่าชูบัตรยับย่นขึ้นอวดประชาชนโดยรอบคราวหนึ่ง เสียงปรบมือโห่ฮาจึงดังไปทั่วสถานเลือกตั้ง ทำให้ชายวิกลจริตอดภาคภูมิใจในตนเองไม่ได้ เขาถึงกับโค้งคำนับให้แก่ทุกคน

ศักดายังนึกเอะใจอีกด้วย ไฉนเขาจึงไม่ได้รับใบแดงใบม่วงอย่างที่คนอื่นเคยได้รับ แบบที่พ่อเคยแอบซุบซิบกับแม่ว่าจะมีคนนำมามอบให้ก่อนวันเลือกตั้ง พอได้มาแล้วก็แบ่งสรรกันคนละใบสองใบจนเป็นที่ชื่นมื่นไปทั่ว โดยเฉพาะแม่ของเขาถึงกับพูดคุยกับพ่อและทุกคนในบ้านว่าหากมีการงดแจก แกคงไม่เสียเวลาไปกากบาท

ครอบครัวของศักดาอาจมีรายได้มากถึง ๑,๕๐๐ – ๒,๐๐๐ บาทเพียงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้ง เงินจำนวนนี้อาจแปรสภาพเป็นได้ตั้งแต่ยาแก้ปวด บุหรี่ เครื่องดองของเมา หรือค่างวดรถจักรยานยนต์ เงินที่ได้มาฟรีทุกฤดูการเลือกตั้งนี้เป็นราวกับเงินเบิกจ่ายมอบเป็นโบนัสแด่พลเมืองชั้นล่าง ผู้เป็นแม่ของศักดาเคยพูดเสียด้วยซ้ำ หากลูกชายคนโตของเธอปกติ ครอบครัวของเธอจะมีรายได้เพิ่มอีกสามร้อยถึงห้าร้อยบาททีเดียว

จ่ายอดมองตามแผ่นหลังที่เปียกโชกด้วยเหงื่อของศักดา เขาจากคูหาเลือกตั้งไปพร้อมกับเครื่องดนตรีที่ไม่เคยส่งเสียง จ่ายอดจ้องมองไปยังคูหาเลือกตั้ง ตอนนี้แกเห็นแสงทองของความหวังทอประกายอย่างเชื้อเชิญ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *