ธรรมะพระมหาสกล ฐานวุฑโฒ

พ่อค้า ข้าราชการ นักการเมือง

สิ่งที่มนุษย์ทุกคนในโลกมีเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลผู้ร่ำรวย มั่งมี ยากจกเศรษฐี นั่นคือ มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน มีสมอง สองมือ และสองเท้า แต่ว่ามนุษย์มักฝากความหวังไว้กับโชคชะตาที่มองไม่เห็น เช่น เลขเด็ด เลขดัง คำว่าหวยนี้มาจากคำสามคำ นั่นคือ

ห มาจากคำว่า หายนะ ฮึกเหิมตอนเช้า
ว มาจากคำว่า วอดวาย วุ่นวายตอนเช้า
ย มาจากคำว่า ย่อยยับ ยับเยินตอนสาย

ดังนั้นอย่าฝากชีวิตของท่านทั้งหลายไว้กับสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ฝากชีวิตไว้กับสมอง สองมือ และสองเท้าของตนเองจะดีกว่า

สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็เพื่อคนที่หวังความร่ำรวยทางลัด เมื่อไม่ได้สิ่งเหล่านี้ตามความปรารถนาแล้ว หนักที่สุดก็มักจะแสวงหาด้วยการกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น ค้าขายยาเสพติด ปล้น ลักชิงวิ่งราว ผลลัพธ์ที่ได้มาอาจจะหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจพ้นชั่วครู่ แต่บางรายหนีไม่พ้น ต้องติดคุกถูกจองจำสิ้นอิสรภาพ กระบวนการหรือวิธีการที่จะได้มาซึ่งผลประโยชน์ของแต่ละคนแตกต่างกัน

สำหรับแรงจูงใจที่ทำให้เกิดการประพฤติผิด ทางพระพุทธศาสนามองสิ่งเหล่านี้ว่าเกิดมาจาก อกุศลมูล โลภะ (ความโลภอยากได้ของเขา) โทสะ (ความโกรธ) ความหลง สิ่งที่ส่งเสริมสนับสนุนให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในตัวตนทุกคน นั่นก็เพราะความจน จนเพราะไม่พอ จนเพราะไม่มี จนเพราะเจียม จะแก้ความโกรธ ความโลภ ความหลงอย่างไรให้ได้ผล เมื่อมีโครงการรณรงค์อะไรต่างๆ มากมาย เช่น โตไปไม่โกง หรือหรือโครงการร่วมต่อต้านคอรัปชั่น เป็นต้น ยิ่งดูเหมือนว่าปัญหาเหล่านี้ยิ่งหนัก แม้จะมีรัฐบาลที่มีอำนาจอยู่ในมือมากมาย อยู่ในตำแหน่งไม่ต่ำกว่า 4 ปีแต่ยังไม่สามารถจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ รอแต่กฎแห่งกรรมก็ไม่ทันใจ บางคดีความของนักการเมืองรู้สึกว่าไม่ทันใจคอการเมือง ตั้งแต่ปี 2551 จนปัจจุบัน บางคดียังไม่สิ้นสุด จนผู้ทำผิดหนีไปลอยนวลเสวยสุข อย่างเชิดหน้าชูตา

ประเทศไทยมีสมบัติที่เป็นสาธารณะประโยชน์ มีมูลค่ามาก สมควรที่จะรักษาหวงแหนไว้ นั่นก็คือ พระพุทธศาสนา และมีหลักธรรมที่ทุกคนควรทราบ รู้ และนำไปปฏิบัติ คือ สันโดษ 3 หลักธรรมที่เปรียบเสมือนภูมิคุ้มกันการโกง

  1. ยถาลาภสันโดษ มีความพอใจในสิ่งที่ตนได้มา หามาด้วยกำลังกาย กำลังความคิดสติปัญญาของตน ไม่นำตนไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ไม่ว่าบุคคลนั้นจะร่ำรวย หรือว่ายากจน หากเปรียบเทียบกับคนที่ร่ำรวยกว่าตน จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าตนต่ำต้อยกว่า เกิดความท้อแท้
  2. ยถาพลสันโดษ ยินดีตามกำลังกาย ตนมีความรู้เพียงไหน ความสามารถมีแค่ไหน ดำรงเพศอะไร ผู้หญิงหรือผู้ชาย พระคุณเจ้า ไม่แสวงหาในทางที่เรียกว่า ปาปสมาจาร ตั้งตนเป็นเกจิอาจารย์ ปลุกเสกเลขยันต์
  3. ยถาสารูปสันโดษ ยินดีตามสมควรแก่เพศสภาวะของตน ฐานะทางสังคม แนวทางการดำเนินชีวิตของตน พูดง่ายๆ สั้นๆ กระชับได้ใจความว่ารู้จักอิ่ม รู้จักพอ สันโดษ 3 ประการดังกล่าวเป็นพระบาลีที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนแก่บริษัท 4 เพื่อเป็นแนวทางการประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตอยู่ในสังคม ที่มีความเหลื่อมล้ำกันมาตั้งแต่ครั้งสมัยพุทธกาล

หลักธรรมนี้สั่งสอนบริษัท 4 หมายถึง ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ให้อยู่กันอย่างมีความสุข ตามกำลังความสามารถของตน และอัตภาพ ป้องกันผลอันจะบังเกิดจากความแตกต่างทางด้านเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของผู้คน เพื่อป้องกันการแสวงหาในทางที่ไม่สมควร เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองได้มาโดยไม่ชอบธรรม ดังที่จะเห็นข่าวร้ายแรงที่เกิดจากความไม่พอตามอัตภาพตน เพศ ฐานะ เกิดการฆาตกรรม แย่งชิงโทรศัพท์ราคาแพง ความไม่รู้จักพอทำให้เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชั่น

ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาการโกง คอรัปชั่น ควรที่จะมีแนวทางอะไรต่างๆ ที่ควบคู่กับกฎหมายบ้านเมืองและพระพุทธศาสนา เพิ่มขึ้นไปยังวัด พ่อค้า ข้าราชการ นักการเมือง หรือบริษัทห้างร้าน ต้องดำเนินการด้วยวิธีต่อไปนี้

หนึ่ง ร่วมมือกับศาสนจักร ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 40 แห่ง ให้บรรจุรายวิชาเกี่ยวกับการต้านโกง หรือวิชาทางด้านพุทธศาสนาที่สามารถเผยแผ่กฎแห่งกรรมที่เห็นอย่างชัดเจน

สอง ปลูกจิตสำนึกกระแสความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ตระหนักถึงเภทภัยแห่งการโกง ทุกคนต้องช่วยกันหากว่าไม่ร่วมมือช่วยกัน ประเทศชาติจะล่มจมเพราะการโกง เป็นต้น

สาม สร้างความน่าเชื่อถือแก่นานาอารยประเทศ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีคุณภาพ

ผู้เขียนมีความเห็นว่า การโกง การคอรัปชั่นเกิดจากบุคคล 3 ประเภท คือ พ่อค้า ข้าราชการ นักการเมือง

พ่อค้าต้องติดต่อทำธุรกรรมกับภาครัฐในทางธุรกิจ

ข้าราชการต้องอำนวยความสะดวกให้แก่พ่อค้า ในการจัดซื้อจัดจ้าง บุคคลต่างๆ เพื่อให้ทำงานกับภาครัฐ

นักการเมือง ดูแลส่วนราชการ คอยกำหนดนโยบาย ควรเริ่มต้นทำความดี เพื่อไม่ให้เสียที ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เกิดมาเป็นมนุษย์

และยิ่งกว่านั้น เกิดมาเป็นไพร่ฟ้า 2 แผ่นดิน ด้วยการดำเนินชีวิตตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงดำเนินชีวิตไว้เป็นแบบอย่างแก่ปวงชนชาวไทย ด้วยการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ไม่มีแบบแผนและเป้าหมายในการดำเนินชีวิต และที่สุดควรดำเนินตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง ประเทศไทยเป็นประเทศที่ประชาชนประกอบ อาชีพเกษตรกรรม และลักษณะกายภาพของมนุษย์ไม่มีเขี้ยวงา ควรที่จะหันกลับมาดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย อย่าติดหรู ฟุ้งเฟ้อ จนเกินกำลัง

สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาจะเป็นเสมือนภูมิคุ้มกัน มิให้เกิดความโลภ ความโกรธ ความหลงเข้าครอบงำ นำไปสู่การโกง ทุจริตต่างๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *