สิ้นศรัทธา ! โกงข้อสอบนักเรียนนักธรรม
นิตยสารโกงออนไลน์ ดำเนินมาถึงเล่มที่ 3 มีผู้อ่านร่วมทำแบบสอบถาม และเสนอเรื่องราวการโกงมาอย่างต่อเนื่อง เรื่องที่ท่านกำลังอ่านนี้ ส่งมาจากคุณครูท่านหนึ่ง ซึ่งเอือมระอากับพฤติกรรมของผู้ที่ทำหน้าที่อบรมจริยธรรมโดยตรงอย่าง ‘พระสงฆ์’ จึงส่งเรื่องมาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์และช่วยกันตรวจสอบ อย่าให้การกระทำน่ารังเกียจนี้เกิดขึ้นจนกลายเป็นความเคยชิน
“โกงข้อสอบเด็กนักเรียนที่มาสอบนักธรรมครับ”
เจ้าของเรื่องโกงแจ้งมาแบบนี้ แต่ก่อนลงรายละเอียด เรามาทำความรู้จักกับการสอบนักธรรมกันก่อนดีกว่า
การสอบนักธรรมหรือสอบบาลีนั้น มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีขึ้นเพื่อทดสอบความจำของพระ ซึ่งมีตั้งแต่ระดับนักธรรมชั้นตรี นักธรรมชั้นโท และนักธรรมชั้นเอก นอกจากเป็นการทดสอบความรู้แล้วยังใช้ในการเลื่อนสมณศักดิ์อีกด้วย
ปัจจุบันนอกจากพระสงฆ์แล้ว ยังมีการสอบนักธรรมแก่ฆราวาสหรือบุคคลทั่วไป โดยต้องไปเรียนนักธรรมก่อน ซึ่งก็ตกอยู่ที่นักเรียนระดับมัธยมเป็นส่วนใหญ่ ผลของการเรียนนักธรรม ทำให้นักเรียนได้ศึกษาธรรมมะ หลักคำสอนพระพุทธศาสนา และได้รับใบประกาศนียบัตรเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการให้เกรดวิชาสังคมศึกษา หรือวิชาพระพุทธศาสนา อีกทั้งใช้ประกอบดุลพินิจของสถาบันศึกษาระดับอุดมศึกษาในการพิจารณาเข้าศึกษาต่ออีกด้วย ดูรวมๆ แล้วการเรียนนักธรรมเป็นเรื่องดี แต่การสอบนี่สิ กลับเกิดเรื่องอัปยศขึ้น
คุณครูจากภาคกลาง ต้นเรื่องบอกกับเราให้ทราบว่า…
เมื่อปลายปี 2561 เขาได้ร่วมเป็นกรรมการคุมสอบนักเรียนในโรงเรียนของเขาเพื่อให้การสอบอยู่ในระเบียบแต่ปรากฏว่าพระอาจารย์ที่ร่วมคุมสอบกับเขาด้วย กลับเฉลยข้อสอบให้นักเรียนชนิดหมดเปลือกทุกข้อ คุณครูท่านนี้รู้สึกเจ็บแปลบกลางอก หลุดผรุสวาทออกมา และเชิญให้พระสงฆ์รูปนั้นออกจากห้องสอบทันที เขามีสิทธิ์ เพราะเป็นโรงเรียนที่เขาสอนอยู่ พระสงฆ์ร่วมคุมสอบยอมออกจากห้องสอบแต่โดยดี แต่ฝังใจเจ็บ รีบแจ้นไปร้องเรียน ผู้อำนวยการ ให้ตั้งคณะกรรมการสอบคุณครูเจ้าของเรื่อง ด้วยข้อหา ‘ดูหมิ่นพระพุทธศาสนา ไม่เคารพพระสงฆ์ เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี
“ผมโดนร้องเรียน แต่ ผอ. ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบผม ถ้าหากตั้งจะกระทบกันหมด เนื่องจากหลายที่เป็นอย่างนี้” คุณครูเจ้าของเรื่องบอก “ระบบสอบจริงๆ แล้วดีนะครับ เพราะข้อสอบมาจากส่วนกลาง ส่งถึงเช้าก่อนสอบ แต่พระสงฆ์ที่คุมสอบนี่สิ กลับเอาไปพริ้นท์แล้วรีบทำเฉลยออกมา เพื่อไปบอกนักเรียน”
เรื่องการสอบนักธรรม เราได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณครูเจ้าของเรื่องว่า เป็นอย่างนี้หลายที่ด้วยกัน บางแห่งถึงกับบอกนักเรียนว่า ไม่ต้องไปเรียนหรอก ไม่ต้องกังวล เพราะถึงเวลาสอบจะเฉลยทุกอย่าง
ด้วยเหตุนี้ผู้อำนวยการจึงไม่ตั้งคณะกรรมการสอบ
คุณครูเจ้าของเรื่องจึงบอกศาลาเลิก ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการสอบนักธรรมทุกกรณีอีกต่อไป
เรื่องนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นเฉพาะห้องสอบที่คุณครูเจ้าของเรื่องบอก เขาได้สอบถามห้องสอบอื่นๆ ปรากฏว่า เกิดขึ้นเช่นกัน แต่หนักยิ่งกว่านั้น เนื่องจากมีนักเรียนตั้งคำถามว่า “ทำแบบนี้เป็นการโกงนะ” แต่พระตอบหน้าตาเฉยแบบติดตลกว่า “โตไปไม่โกง แต่ตอนนี้ยังไม่โต”
เราถามกลับว่า แล้วจะโกงไปเพื่ออะไร
คำตอบคือ “คณะพระสงฆ์ที่สอนนักเรียนจะได้หน้า สามารถนำไปเคลมเพื่อขอพัดยศ หวังเลื่อนสมณศักดิ์ ”
แน่ะ ! ในผู้ซึ่งควรละซึ่งกิเลส กลับมากไปด้วยสิ่งเหล่านี้เสียเอง
“ผมหมดศรัทธากับพระเลยครับ จะทำบุญก็เลือกกับพระที่เลื่อมใสจริงๆ ขนาดพระในตำบล ในอำเภอเดียวกันแท้ๆ ยังโกงกันเห็นๆ ผมหมดศรัทธาแล้ว ไม่คิดหรือว่าคนอื่นจะไม่หมดศรัทธา แล้วนักเรียนล่ะ เห็นต้นแบบเช่นนี้ จะไม่ทั้งหมดศรัทธา และนำนิสัยโกงติดตัวไปด้วยหรือ”
คุณครูต้นเรื่องกล่าวสรุป ซึ่งเราก็เห็นคล้อยตามเขา และขอนำเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์ หากพบเห็นเรื่องอย่างนี้อย่าถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาเลยครับ นักเรียนก็เช่นกัน หากพระผู้คุมสอบมายืนเฉลยข้อสอบให้ อย่านึกว่าเขาใจดีเลย
เพราะเบื้องหลังนั้นแอบแฝงด้วยผลประโยชน์ที่น่าบัดสียิ่ง.