แกเบรียล อัลฟอนซ์ คาโปน
เอ่ยชื่อ แกเบรียล อัลฟอนซ์ คาโปน หรือ อัล คาโปน ที่หลายคนคุ้นเคย มาเฟียตัวฉกาจแห่งสหรัฐฯ ในยุคแห่งคราบคาวความใคร่ของหญิงสาวโสเภณี ผู้ซึ่งเติบโตขึ้นในแวดวงธุรกิจเหล้าเถื่อน ในนาม “แก๊งค์ชิคาโก” ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1920 ถึง 1930 แม้จะเป็นหัวหน้าพวกอันธพาลเพียง 7 ปี ก่อนจะเข้าคุกครั้งแรกในวัย 33
หลายคนรู้จักเขาในนาม “ไอ้หน้าบาก”
คาโปนเป็นชาวนิวยอร์ก เขาเกิดในบรูคลิน เมื่อปี 1899 มีพ่อแม่เป็นผู้อพยพจากอิตาลี และเข้าร่วมแก๊ง Five Points ตั้งแต่วัยรุ่น ในวัยยี่สิบปีต้นๆ เขาย้ายไปอยู่ชิคาโก กลายเป็นผู้คุ้มกันของ จอห์นนี่ ทอร์ริโอ หัวขบวนของการค้าเหล้าเถื่อน ซึ่งมีเส้นสายทางการเมือง ชีวิตของคาโปนรุ่งโรจน์และร่วงหล่นด้วยความเป็นไปของความขัดแย้งระหว่างแก๊งค์ ทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่ทอร์ริโอจะเสียชีวิตเพราะถูกยิง คาโปนพัฒนาความสัมพันธ์ของเขากับ วิลเลียม เฮท ทอมป์สัน นายกเทศมนตรี รวมถึงตำรวจของเมือง ทำให้กิจการค้าเหล้าเถื่อนของเขาปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ และปลอดภัยจากการบังคับใช้กฎหมาย
นับจากนี้ ชายคนหนึ่งที่เป็นลูกหลานของผู้พลัดถิ่นชาวอิตาเลียน คนที่เคยเป็นเด็กที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 14 ปี และเป็นคนเดียวกันกับที่เอ่ยวาจาสามหาวกับหญิงโสเภณี จนถูกพี่ชายของเธอฟันที่ใบหน้าถึง 3 ครั้ง กำลังจะกลายเป็นมาเฟียระดับตำนานของนครชิคาโก
แม้ประกอบอาชีพที่ผิดกฏหมายและศีลธรรม แต่คาโปนใช้ชีวิตราวกับนักบุญ เขานำเงินจากการค้าเหล้าเถื่อนมาใช้บริจาคเพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดี ผู้คนมากมายเรียกเขาว่า “โรบินฮู้ด” อย่างไรก็คาม พ่อพระโรบินฮู้ดฉลองค่ำคืนแห่งวันนักบุญวาเลนไทน์ ด้วยการสังหารสมาชิกของแก๊งค์คู่แข่งมากถึง 7 คน ชื่อเสียงของเขาเริ่มเลวร้ายลง เมื่อได้รับข้อกล่าวหา และไม่มีใครคิดว่าเขาเป็นคนดีอีกเลย
ในปี 1931 คาโปนถูกจับกุมตัว ศาลส่วนกลางพิพากษาว่าเขามีความผิดฐานเลี่ยงภาษี ผู้พิพากษายอมรับว่าหลักฐานทางคดีชี้ให้เห็นถึงรายได้ของ อัลคาโปน แต่ไม่มีหลักฐานทางด้านภาษี แม้จะเปลี่ยนทีมทนายที่พร้อมมากสำหรับการอุทธรณ์อย่างแข็งขัน แต่การอุทธรณ์ของเขาไม่เป็นผล เขาถูกสั่งจำคุก 11 ปี แต่ติดจริงเพียง 8 ปีเท่านั้น
ในวันที่ 25 มกราคม 1947 คาโปนเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้น หลังจากมีอาการเส้นเลือดในสมองแตก.
เรื่องที่ลืมไม่ได้อย่างหนึ่งสำหรับอัล คาโปน ที่เกี่ยวกับการเดินทางมาถึงชิคาโกของเขา นั่นคือการที่เขาติดเชื้อซิฟิลิสจากในซ่อง ด้วยเริ่มต้นชีวิตในเมืองใหม่ด้วยการเป็นแมงดาประจำซ่อง ซึ่งแม้จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ทัน หากได้รับยาปฏิชีวนะ แต่เขาไม่เคยสนใจ
หลังทอร์ริโอเข้าควบคุมกิจการแทน เจมส์ “บิ๊กจิม” โคลอสซิโม ด้วยการเสียชีวิตของบิ๊กบอสที่คาโปนเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย แต่สิ่งนี้ทำให้ชีวิตของคาโปนยิ่งเจริญรุ่งเรืองขึ้นไปอีก เมื่อทอร์รีโอกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มอาชญากรรมองค์กรเชื้อสายอิตาเลียนที่ใหญ่โตที่สุดในชิคาโก โดยมีคาโปนเปรียบเสมือนท่อนแขนข้างขวา
เขาซื้อบ้านหลังแรกที่ถนน เซาท์ แพรี่ ในปี 1923, มันมีราคาเพียง 5,500 ดอลลาร์ ในช่วงต้นของสิบปีนั้น ชื่อของเขาปรากฎหราบนหน้าสิ่งพิมพ์กีฬา
นักข่าวกีฬาเรียกเขาว่า “โปรโมเตอร์มวย”
คาโปนแต่งงานกับภรรยาของเขา เม โจเซฟิน ตั้งแต่ตัวเขาเองมีอายุเพียง 19 ปี เธอเป็นชาวไอริชที่นับถือศาสนาแคธอลิค ที่หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น เธอได้ให้กำเนิดทารกน้อยชื่อ อัลเบิร์ท ฟรานซิส ซันนี่ คาโปน ซึ่งเป็นเด็กน้อยที่สูญเสียการได้ยินฝั่งซ้ายตั้งแต่แรกเกิด ในตอนนั้น คาโปนยังมีอายุไม่เต็ม 21 ปี พ่อแม่ของเขาต้องให้การยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับการแต่งงานครั้งนั้น ทั้งสองมีความสุขในชีวิตแต่งงาน แม้คาโปนจะมีชีวิตแบบชาวแก๊งค์
ความก้าวหน้าภายในแก๊งค์ชิคาโก้ของ อัล คาโปน ทำให้เขามีฐานะดีขึ้นเรื่อยๆ เขาซื้อแมนชั่นหรูอยู่ที่ฟลอริดา ไมอามี่ จึงไปมาบ่อยครั้งในช่วงท้ายของชีวิตแก๊งค์ ในแง่หนึ่ง สำหรับผู้ยากไร้ พวกเขาต่างมองว่าอัล คาโปนเป็นพ่อพระ เขาเปิดหน้าร้านบริจาคซุปร้อน กาแฟ แและโดนัทให้กับคนที่ไม่มีงานทำเป็นประจำ แต่การทำความดีเพียงเท่านี้ไม่อาจจะลบล้างความปิดที่เขาก่อได้
ในปี 1925 คาโปนถูกซุ่มโจมตี แต่ไม่เป็นอันตราย อีกสิบสองวันต่อมา ทอร์รีโอเพิ่งกลับมาจากการท่องเที่ยวซื้อของ เขาถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายนัด หลังจากฟื้นขึ้น เขาตัดสินใจลาออก และมอบอำนาจทั้งหมดให้กับคาโปน ที่มีอายุเพียง 26 ปี
เขากลายเป็นหัวหน้าคนใหม่ขององค์กรที่ต้องบริหารงานโรงกลั่นผิดกฎหมาย รวมทั้งเครือข่ายการขนส่งเหล้า ที่มีเครือข่ายกว้างไกลถึงแคนาดา.